วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

แฉสารพิษแหลมฉบังรั่ว อันตรายติดอันดับ6โลก แม่ค้าตาย1อาเจียนก่อนทรุด นร.ป่วยระนาว นายกฯสั่งสอบด่วน

  
แฉสารพิษแหลมฉบังรั่ว อันตรายติดอันดับ6โลก แม่ค้าตาย1อาเจียนก่อนทรุด นร.ป่วยระนาว นายกฯสั่งสอบด่วน
ผู้ว่าฯชลบุรีระบุ "สารเคมีโซเดียม เปอร์ซัลเฟต" ที่รั่วในท่าเรือแหลมฉบัง เป็นสารอันตรายติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก ทำ นร.ป่วยระนาว มีผื่นขึ้น-เป็นลม สั่งอพยพคนห่างนิคมอุตฯ แม่ค้าตายแล้ว 1ราย มีอาการแสบตา-คันตัว-อาเจียน ถึง รพ.กลับทรุดหนักส่งนิติเวชหาเหตุตาย นายกฯสั่งสอบด่วน กทท.อ้างเคลียร์แล้วปลอดพิษ แต่ สธ.ยังควบคุม




ผู้สื่อข่าว "มติชน"ประจำ จ.ชลบุรี รายงานความคืบหน้ากรณีสารเคมีโซเดียม เปอร์ซัลเฟต (Sodium persulfate) หรือสารฟอกขาว เกิดรั่วไหลจากตู้คอนเทนเนอร์ 1 ตู้ น้ำหนัก 22 ตัน ท่าเรือ B3 ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ขณะบริษัท อีสเทิร์น แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด เตรียมขนส่งให้บริษัท ยามาฮัตซึ ประเทศไทย (จำกัด) นำไปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตยาย้อมผม เมื่อค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ ทำให้ประชาชนใกล้เคียงเกิดอาการระคายเคืองหายใจไม่ออกและเข้ารักษาที่โรงพยาบาล (รพ.)ใน จ.ชลบุรีหลายรายว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น.เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ขณะที่นักเรียนโรงเรียนวิศวกรรมแหลมฉบัง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำลังเรียนอยู่ในห้องเรียน ปรากฏกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงพัดเข้ามาภายในโรงเรียน ทำให้นักเรียนเกิดอาการแพ้มีผื่นขึ้นตามใบหน้า ลำตัว บางคนเป็นลม ต้องนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ศรีราชา ประมาณ 10 คน


ขณะที่ประชาชนใน ต.อ่าวอุดมที่อาศัยอยู่บริเวณข้างเคียงกับนิคมอุตสาหกรรมก็ทยอยเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.อ่าวอุดมอีกจำนวนหนึ่งได้อพยพออกมาพักชั่วคราวอยู่บริเวณลานวัดแหลมฉบังเก่า หมู่ 3 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา ห่างจากท่าเรือ 3 กิโลเมตร โดยมีแพทย์และพยาบาล จาก รพ.อ่าวอุดม สาธารณสุขอำเภอ เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสารเคมี พบว่า ด.ญ.ศิริลักษณ์ กุลบุตร อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 มีอาการแพ้สารเคมี มีอาการเจ็บคอและผื่นขึ้นเต็มหน้า ด.ญ.ณภัสรา นาทัน อายุ 12 ปี ไอ เจ็บคอ และตาแดง มีเลือดกำเดาไหลออกทางจมูก โรงเรียนบ้านแหลมฉบังเก่ามีคำสั่งปิดโรงเรียนโดยไม่มีกำหนดจนกว่าท่าเรือแหลมฉบังจะประกาศว่าปลอดภัยจากสารเคมี


สำหรับผู้ป่วยที่นอนรักษาตัว 5 ราย ใน รพ. 3 แห่ง ได้แก่ รพ.แหลมฉบังอินเตอร์ 2 ราย คือ นายสกรรจ์ ฤทธิ์นภา อายุ 16 ปี มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน น.ส.พนม จุนผักแร้น อายุ 33 ปี วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 2 ราย คือ นายสุวิทย์ ศรีพรจัน อายุ 34 ปี มีอาการแน่นหน้าอก แสบคอ และนายเกรียงไกร ทาคำ อายุ 29 ปี วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และ รพ.พญาไท คือ นายสากล พิมพ์มาลี อายุ 47 ปี มีอาการแสบคอ อาเจียน ทุกรายอาการปลอดภัยแล้ว


จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. นางสุนีย์ พู่เพ็ชร อายุ 53 ปี แม่ค้าขายอาหารบริเวณชายหาดแหลมฉบัง มีอาการอาเจียน แสบตา และเกิดอาการคันเนื้อคันตัวเหมือนกับผู้ที่ได้รับสารเคมีทั่วไป ได้เดินทางมารักษาตัวที่ศูนย์ช่วยเหลือบริเวณวัดแหลมฉบังเก่า โดยมีแพทย์และพยาบาลให้การช่วยเหลือผู้ได้รับสารเคมี ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง หลังจากนั้น อาการเริ่มหนักขึ้นจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


แพทย์ลงความเห็นว่าหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทางด้านญาติของนางสุนีย์ไม่เชื่อว่ามาจากหัวใจล้มเหลว แต่สาเหตุมาจากสารเคมีที่มีการฟุ้งกระจายที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพราะปกติเป็นคนร่างกายแข็งแรง ทางโรงพยาบาลจึงได้ส่งศพไปสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป


เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภาถึงเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ว่ามีการดำเนินการช่วยเหลืออยู่ ซึ่งล่าสุดมีรายงานเรื่องการเสียชีวิต แต่ได้สั่งให้มีการตรวจสอบแล้วว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร


ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนใน ต.แหลมฉบัง และตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กำหนดเขตพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้ได้รับสารพิษครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 400 คน เข้ารับการรักษาไม่น้อยกว่า 40 กว่าคน มีผู้เสียชีวิตอายุประมาณ 65 ปีอีก 1 คน ซึ่งต้องรอผลการพิสูจน์ว่าเกิดจากสารเคมีรั่วหรือไม่ สำหรับผลการตรวจสารพิษจากกรมควบคุมมลพิษเวลา 14.00 น.วันนี้ (26 พ.ย.) ไม่พบสารกลุ่มสารซัลเฟอร์ในอากาศแล้ว


นายเสนีย์ จิตตเกษม กล่าวว่า สารเคมีโซเดียม เปอร์ซัลเฟตถือเป็นสารเคมีที่อันตรายติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก จึงต้องเร่งตรวจสอบทั้งดินและน้ำบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งอากาศว่ามีสารเคมีปนเปื้อนด้วยหรือไม่


นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวถึงสาเหตุสารเคมีรั่วไหลไปทั่วบริเวณนิคมฯว่า เวลา 21.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษเข้ามาตรวจสอบและทำลายสารเคมีที่รั่วไหลเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่เมื่อเปิดตู้คอนเทนเนอร์ปรากฏว่า สารเคมีระเหยขึ้นมาอีก ประกอบกับช่วงนั้น มีลมกรรโชกอย่างรุนแรงทำให้ลอยไปในอากาศ


นางสุนิดา สกุลรัตนะ รักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า กทท.ได้ส่งนักเคมีเข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว ไม่พบสารตกค้างที่จะส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงประกาศให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และพนักงานเข้าไปทำงานตามปกติแล้ว ส่วนรายที่เสียชีวิต 1 รายนั้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่หากตรวจพบว่า เกี่ยวข้องก็พร้อมรับผิดชอบ


นางอัมพรนิติศิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการได้รับสารเคมีดังกล่าว แต่เสียชีวิตจากโรคลมชัก เป็นโรคประจำตัวของผู้ตาย


นายศิริพงษ์ หังสพฤกษ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ยังระบุไม่ได้ว่าต้องใช้เวลากี่วันจึงจะขจัดสารและกลิ่นตกค้างได้หมด แต่ได้จัดใช้ปูนขาวใส่ลงไปในระบบบำบัดน้ำแล้ว เพื่อปรับค่าความเป็นกรดด่างให้อยู่ในสภาพสมดุล ขอให้ชาวบ้านสบายใจว่าจะไม่มีสารพิษตกค้างอย่างแน่นอน

ที่มา : www.parliament.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนุ่มคลั่ง บุกทุบห้องสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบางแสนพังเละ หวิดดับคาสารเคมี

วานนี้(31 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ SV News ข่าวบางแสน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก รปภ.ว่ามีคนคลุ้มคลั่งบุกเข้า...